ทรัมป์เสนอ “โดมทองคำ” 175,000 ล้านดอลลาร์! ระบบป้องกันขีปนาวุธสุดล้ำ รับมือภัยนิวเคลียร์จากจีน-รัสเซีย-เกาหลีเหนือ จุดชนวนแข่งอาวุธ?
วอชิงตัน ดี.ซี., สหรัฐอเมริกา – โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้ที่อาจลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง ได้จุดประเด็นร้อนในวงการความมั่นคงระหว่างประเทศ ด้วยการเปิดเผยแนวคิดโครงการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธสุดทะเยอทะยานมูลค่ามหาศาลถึง 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือที่เขาเรียกว่า “โดมทองคำ” (Golden Dome) โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสหรัฐอเมริกาจากภัยคุกคามด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากชาติปรปักษ์อย่างจีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือ ข้อเสนอดังกล่าวได้ก่อให้เกิดทั้งเสียงสนับสนุนและความกังวลว่าอาจเป็นการจุดชนวนการแข่งขันทางอาวุธครั้งใหม่
ตามรายงานของ Daily Mail (อ้างอิงบทความหมายเลข 14734533) นายทรัมป์ได้กล่าวถึงแนวคิด “โดมทองคำ” นี้ว่าเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ “ไม่สามารถเจาะทะลวงได้” ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันประเทศจากขีปนาวุธนำวิถีและอาวุธนิวเคลียร์ แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคอย่างครบถ้วน แต่คาดการณ์ว่าโครงการนี้อาจเป็นการยกระดับหรือต่อยอดจากเทคโนโลยีป้องกันขีปนาวุธที่มีอยู่เดิมของสหรัฐฯ เช่น ระบบ Aegis, THAAD และ Ground-Based Midcourse Defense (GMD) ให้มีความครอบคลุมและประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น

เป้าหมายและเหตุผลเบื้องหลัง “โดมทองคำ”:
- รับมือภัยคุกคามจากมหาอำนาจนิวเคลียร์: ทรัมป์เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่งเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากจีน ซึ่งกำลังขยายคลังอาวุธนิวเคลียร์อย่างรวดเร็ว, รัสเซีย ที่ยังคงเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์รายใหญ่ และเกาหลีเหนือ ที่มีโครงการพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง
- สร้างความได้เปรียบทางทหาร: การมี “โดมทองคำ” จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและป้องปรามการโจมตีต่อสหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯ มีความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์
- สานต่อแนวคิด “สันติภาพด้วยความแข็งแกร่ง” (Peace Through Strength): ข้อเสนอนี้สอดคล้องกับแนวทางการต่างประเทศและการป้องกันประเทศที่ทรัมป์เคยใช้ในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งทางทหารเพื่อเป็นหลักประกันสันติภาพ
เสียงวิพากษ์วิจารณ์และความกังวล:
แม้แนวคิด “โดมทองคำ” จะดูเหมือนเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และข้อกังวลตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้:
- งบประมาณมหาศาล: ตัวเลข 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นงบประมาณที่สูงมาก และอาจส่งผลกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณในด้านอื่นๆ ที่มีความสำคัญเช่นกัน
- ความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยี: ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ทางเทคนิคในการสร้างระบบป้องกันที่ “ไม่สามารถเจาะทะลวงได้” อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อต้องรับมือกับขีปนาวุธจำนวนมากหรือเทคโนโลยีขีปนาวุธที่ล้ำสมัย เช่น ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก
- จุดชนวนการแข่งขันทางอาวุธ: การพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธขนาดใหญ่เช่นนี้ อาจถูกมองว่าเป็นการคุกคามจากประเทศอื่นๆ และกระตุ้นให้มีการพัฒนาอาวุธโจมตีที่ล้ำหน้ายิ่งขึ้นไปอีก ก่อให้เกิดวงจรการแข่งขันทางอาวุธที่ไม่มีที่สิ้นสุด และบั่นทอนเสถียรภาพความมั่นคงระหว่างประเทศ
- ผลกระทบต่อสนธิสัญญาควบคุมอาวุธ: โครงการลักษณะนี้อาจส่งผลกระทบต่อสนธิสัญญาและข้อตกลงควบคุมอาวุธที่มีอยู่เดิม
ข้อเสนอ “โดมทองคำ” ของโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการนำเสนอแนวคิด และยังต้องเผชิญกับการตรวจสอบ วิเคราะห์ และถกเถียงอีกมากจากทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง และสาธารณชน ก่อนที่จะสามารถผลักดันให้เป็นรูปธรรมได้ อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลต่อภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ที่ยังคงมีอยู่จริงในเวทีโลก และแนวทางการตอบสนองที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในดุลอำนาจทางทหารระหว่างประเทศ