การส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคารไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่ยังต้องเผชิญกับอันตรายร้ายแรงจาก รังสีในอวกาศ ที่มาจากดวงอาทิตย์และดวงดาวห่างไกล งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Space Weather ได้ไขคำตอบสำคัญ 2 ข้อที่อาจเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของภารกิจนี้ คือ:
- รังสีในอวกาศจะเป็นภัยร้ายแรงเกินกว่าที่มนุษย์จะทนได้หรือไม่?
- การเลือกช่วงเวลาเดินทางสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากรังสีได้หรือไม่?
คำตอบคือ “ไม่” และ “ได้”

ทีมวิจัยจาก UCLA, MIT และศูนย์วิจัย GFZ ในเยอรมนีระบุว่า ภารกิจไปกลับดาวอังคารสามารถทำได้อย่างปลอดภัย ถ้าใช้เวลาไม่เกิน 4 ปี และต้องเริ่มเดินทางในช่วงที่เรียกว่า “Solar Maximum” หรือช่วงที่ดวงอาทิตย์มีกิจกรรมรุนแรงที่สุด
☀️ Solar Maximum ป้องกันได้จริง
ฟังดูแปลก แต่ในช่วง Solar Maximum พลังงานจากดวงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้นจะช่วย ลดปริมาณรังสีคอสมิกจากดาราจักรอื่น ซึ่งเป็นรังสีที่อันตรายที่สุดและทะลุทะลวงได้สูงกว่ารังสีจากดวงอาทิตย์เอง
🛸 เดินทางไป-กลับภายใน 2 ปี
การเดินทางไปดาวอังคารใช้เวลาประมาณ 9 เดือนต่อเที่ยว ซึ่งหมายความว่าภารกิจสามารถเสร็จสิ้นภายใน 2 ปี หากมีการวางแผนและใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนที่เหมาะสม ซึ่งอยู่ภายใต้เกณฑ์ความปลอดภัยที่งานวิจัยแนะนำ
อย่างไรก็ตาม การสร้างยานอวกาศที่มีระบบป้องกันรังสีต้องพอดี เพราะหากใช้วัสดุป้องกันหนาเกินไป อาจกลับทำให้เกิด รังสีทุติยภูมิ (Secondary Radiation) ที่เป็นอันตรายไม่แพ้กัน
🔍 งานวิจัยนี้ชี้ชัดว่า:
- ช่วงปลอดภัยที่สุดสำหรับภารกิจคือ 6–12 เดือนหลังจากจุดสูงสุดของ Solar Maximum
- ต้องออกแบบยานให้มี การป้องกันรังสีแบบสมดุล
- หลีกเลี่ยงภารกิจที่เกิน 4 ปี เพื่อไม่ให้มนุษย์สัมผัสรังสีในระดับอันตราย
🚨 สรุป
มนุษย์สามารถไปดาวอังคารได้ ถ้าวางแผนให้รอบคอบ เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม และสร้างเทคโนโลยีป้องกันรังสีที่มีประสิทธิภาพ ภารกิจระหว่างดาวดวงแรกของมนุษยชาติจึงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป