เมื่อเร็ว ๆ นี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน นางแคท แคมแม็ก จากรัฐฟลอริดา ได้เสนอร่างกฎหมายที่มีชื่อว่า App Store Freedom Act โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดตลาดแอปมือถือให้มีการแข่งขันมากขึ้น และลดอำนาจผูกขาดของผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น Apple และ Google
จุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการแข่งขันและปกป้องผู้บริโภค
นางแคมแม็กกล่าวว่า ร่างกฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อ “ส่งเสริมการแข่งขัน และปกป้องผู้บริโภคและนักพัฒนา” โดยจะห้ามไม่ให้บริษัทที่ครองตลาดแอปมือถือแสดงพฤติกรรมที่เข้าข่ายต่อต้านการแข่งขัน
บังคับเปิดทางให้ App Store ทางเลือก
สาระสำคัญของร่างกฎหมายกำหนดว่า ผู้ให้บริการร้านแอปที่มีผู้ใช้งานเกิน 100 ล้านคนในสหรัฐฯ (เช่น Apple App Store และ Google Play Store) จะต้อง:
• อนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งค่าแอปของบุคคลที่สามเป็นค่าเริ่มต้น
• ให้ผู้ใช้สามารถซ่อนหรือลบแอปที่ติดตั้งล่วงหน้า
• อนุญาตให้ติดตั้งแอปหรือร้านแอปจากแหล่งอื่นนอกแพลตฟอร์มหลัก
สนับสนุนนักพัฒนา ห้ามเลือกปฏิบัติ
ร่างกฎหมายยังระบุให้บริษัทเทคโนโลยี ต้องเปิดให้นักพัฒนาเข้าถึง API เครื่องมือ และฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือการเลือกปฏิบัติใด ๆ รวมถึง ห้ามบังคับให้นักพัฒนาใช้ระบบชำระเงินภายในแอปของบริษัท ซึ่งเป็นประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงมานาน
โทษปรับสูงสุด 1 ล้านดอลลาร์ต่อการละเมิด
เพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้จริง แคมแม็กเสนอให้ คณะกรรมการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (FTC) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ และกำหนดบทลงโทษทางแพ่งสูงสุดถึง 1 ล้านดอลลาร์ ต่อการละเมิดแต่ละครั้ง
การเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลต่อทั้งอุตสาหกรรม
หากร่างกฎหมายนี้ผ่านการอนุมัติและบังคับใช้จริง จะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในโลกของระบบนิเวศแอปมือถือ โดยเฉพาะต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และอาจเปิดประตูให้เกิดนวัตกรรมและการแข่งขันที่เป็นธรรมยิ่งขึ้นสำหรับนักพัฒนาทั่วโลก